7 w ·Translate

การออกแบบเว็บไซต์คือ การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์สำหรับอินเทอร์เน็ต แม้ว่าการสร้างเว็บไซต์จะต้องอาศัยทักษะและทรัพยากรเพิ่มเติม เช่น การเขียนโค้ดและการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ด้านการออกแบบมักจะเน้นที่อินเทอร์เฟซผู้ใช้และประสบการณ์เป็นหลัก

ซึ่งประสบการณ์ผู้ใช้อาจรวมถึงรูปลักษณ์ ฟังก์ชันการทำงาน เค้าโครง และเนื้อหาของเว็บไซต์ โดยนักออกแบบเว็บไซต์ทำงานเพื่อค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในการแสดงข้อมูลบนเว็บไซต์

ดังนั้นผู้ใช้จึงพบว่าข้อมูลนี้น่าสนใจและเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้นักออกแบบเว็บไซต์ มักจะใช้การออกแบบและเค้าโครงเว็บที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันและการใช้งานที่ต้องการของเว็บไซต์นั่นเอง

สำหรับใครที่อยากมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีคิดไอเดียไม่ออก และยังไม่มีธุรกิจหรือสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ สิ่งแรกเราขอแนะนำให้ทำการวิจัยตลาดกลุ่มเป้าหมายก่อน หาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทุกรายละเอียด

เมื่อได้ข้อมูลมาอย่างครบถ้วนแล้ว ให้กำหนดวัตถุประสงค์และทำการวางแผนทางการตลาดอย่างแม่นยำ เพื่อโอกาสสำเร็จทางการตลาด ในทางกลับกันหากทำสิ่งที่ใจอยากทำโอกาสเจ๊งนั้นสูงมาก

ในขณะที่เราวิจัยตลาด วางแผนกลยุทธ์มาแล้วเราไปดูประเภทเว็บไซต์กันเลยดีกว่าครับ ว่ามีอะไรบ้างซึ่งอาจเปิดมุมมองให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกใช้เว็บไซต์อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับธุรกิจ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดของเรา


ประเภทของเว็บไซต์

สำหรับเว็บไซต์สามารถจำแนกได้หลายประเภทตามหลักการที่แตกต่างกัน เช่น จุดประสงค์ในการใช้งาน, องค์ประกอบด้านเทคนิค, หรือผู้ใช้งานเป้าหมาย ต่อไปนี้เป็นประเภทของเว็บไซต์ที่พบบ่อย:

1. เว็บไซต์ส่วนบุคคล (Personal Websites): เว็บไซต์ที่บุคคลสร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว, ประสบการณ์, งานอดิเรก, หรือบล็อก.

2. เว็บไซต์ธุรกิจ (Business Websites): เว็บไซต์ที่ใช้เพื่อการค้า, การโฆษณา, และให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือสินค้า.

3. เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ (E-commerce Websites): เว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์.

4. เว็บไซต์ข่าวสาร (News Websites): เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสาร, รายงาน, และบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ.

5. เว็บไซต์ทางการศึกษา (Educational Websites): เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลทางการศึกษา, ทรัพยากรการเรียนรู้, หรือหลักสูตรออนไลน์.

6. เว็บไซต์บันเทิง (Entertainment Websites): เว็บไซต์ที่ให้เนื้อหาด้านความบันเทิง เช่น ภาพยนตร์, เพลง, เกมส์, และวิดีโอ.

7. เว็บไซต์สังคมออนไลน์ (Social Media Websites): เว็บไซต์ที่เน้นการสื่อสาร, การแชร์เนื้อหา, และการสร้างเครือข่ายสังคม.

8. เว็บไซต์พอร์ทัล (Portal Websites): เว็บไซต์ที่ให้บริการหลายประเภทผ่านหน้าเว็บเดียว, เช่น อีเมล, ข่าวสาร, การค้นหา.

9. เว็บไซต์วิกิ (Wiki Websites): เว็บไซต์ที่เนื้อหาสามารถถูกสร้างหรือแก้ไขโดยผู้ใช้งานหลายคน, มักใช้เป็นแหล่งความรู้หรือข้อมูลอ้างอิง.

10. เว็บไซต์องค์กรไม่แสวงผลกำไร (Non-profit Websites): เว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อแบ่งปันข้อมูล, โปรโมตกิจกรรม, และระดมทุน.

11. เว็บไซต์ชุมชนออนไลน์ (Community Websites): เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับชุมชนเฉพาะ ที่ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแบ่งปันความสนใจร่วมกัน.

12. เว็บไซต์รีวิว (Review Websites): เว็บไซต์ที่มีการรวบรวมและเผยแพร่รีวิวสินค้าหรือบริการ ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจก่อนการซื้อ.

13. เว็บบอร์ดและฟอรัม (Forum Websites): เว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อการสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ในรูปแบบของกระทู้และโพสต์.

14. เว็บไซต์เนื้อหาอินเตอร์แอกทีฟ (Interactive Content Websites): เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบได้โดยตรง เช่น เกมออนไลน์, แบบทดสอบ, และเครื่องมือออนไลน์.

15. เว็บไซต์เอกสารและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Document and eBook Websites): เว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดเอกสารหรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์.

16. เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Websites): เว็บไซต์ที่นักออกแบบ, ศิลปิน, หรือมืออาชีพในด้านต่างๆ ใช้เพื่อแสดงผลงานของตนเอง.

17. เว็บไซต์สาธารณะ (Public Websites): หมายถึงเว็บไซต์ที่เข้าถึงได้โดยผู้ใช้งานทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบเพื่อเข้าชมเนื้อหา แม้ว่าบางส่วนของเว็บไซต์อาจจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบางส่วนหรือบางฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิกเท่านั้น

image